บทความ

กถักกฬิ

รูปภาพ
 กถักกฬิ เป็นการแสดงละครที่งดงามด้วยศิลปะการ่ายรำแบบเก่าๆ ผู้แสดงจะต้องสวมหน้ากาก นับว่าเป็นต้นเค้าของนาฏศิลป์ตะวันออก เช่น ละครโน้ะของญี่ปุ่น โขนของไทย และนาฏศิลป์อินโดนีเซีย              การแสดง ผู้แสดงเป็นชายล้วน แบ่งตัวละครออกเป็นประเภท คือ ประเภทแรกจะเป็นเทพเจ้าที่มีคุณธรรมสูง เช่น พระนารายณ์ พระอินทร์ เป็นต้น ประเภทที่สองจะเป็นมนุษย์ และวีรบุรุษ เช่น พระราม พระลักษณ์ ประเภทที่สามจะเป็นตัวละครที่มีความชั่วร้าย  จุดเด่นของการแสดงละครกถักกฬิอยู่ที่การเล่นจังหวะ กระทบเท้าอย่างรวดเร็ว ฉับไว แม่นยำ และลีลาที่หมุนตัวเป็นเอกลักษณ์ของระบำกถักกฬิ อ้างอิง  https://strikernzero.blogspot.com/2017/12/blog-post_27.html

ภารตะนาฏยัม

รูปภาพ
 ภารตะนาฏยัม เป็นนาฏศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดีย มีส่วนสำคัญในพิธีของศาสนาฮินดูสมัยโบราณ โดยสตรีฮินดูจะถวายตัวรับใช้ศาสนาเป็น “เทวทาสี” ร่ายรำขับร้อง บูชาเทพในเทวาลัย ซึ่งจะเริ่มฝึกตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ศึกษาพระเวท วรรณกรรม ดนตรี การขับร้องของเทวทาสีเปรียบประดุจนางอัปสรที่ทำหน้าที่ร่ายรำบนสวรรค์  ท่ารำมีทั้งหมด 108 ท่า อ้างอิง  https://strikernzero.blogspot.com/2017/12/blog-post_27.html  

นาฏศิลป์อินเดีย

รูปภาพ
 นาฏศิลป์อินเดีย ชาวอินเดียเชื่อว่า กำเนิดของการฟ้อนรำมีความสัมพันธ์กับเทพ ๒ องค์ คือ พระศิวะ และ  พระพรหม นาฏศิลป์อินเดียมีความผูกพันอยู่กับคติความเชื่อ และศรัทธาในศาสนาฮินดู การแสดงนาฏศิลป์สะท้อนให้เห็นถึงการเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ อินเดียถือว่านาฏศิลป์กำเนิดตามคัมภีร์ภารตะ นาฏย ศาสตร์              ประวัติความเป็นมาของนาฏศิลป์อินเดียตามคัมภีร์ นาฏย ศาสตร์ คือ พระภารตะมุนีเป็นผู้รับพระราชทานนาฏลีลาจากพระพรหม และพระศิวะ ชาวฮินดูจึงยกย่องพระศิวะเป็น “นาฏราชา” หมายถึง พระราชาแห่งการฟ้อนรำ ยุคที่อินเดียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ อินเดียได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทางด้านนาฏศิลป์ การละคร วัฒนธรรม ตะวันตกได้เข้ามาผสมผสานทำให้นาฏศิลป์ที่เป็นแบบฉบับในราชสำนักขาดการดูแลรักษา ต่อมาเมื่ออินเดียเป็นเอกราช จึงฟื้นฟูนาฏศิลป์ประจำชาติขึ้นมาใหม่ อ้างอิง  https://strikernzero.blogspot.com/2017/12/blog-post_27.html